Close System Forex กับผลตอบแทน Part-2
(ต่อยอดจาก Live! พี่ Mudley)
สำหรับ พอร์ตที่ใช้ ทดสอบ เป็นระยะเวลาหลายเดือน
ผลเป็นที่น่าพอใจ ดีกว่ามานั่งเทรดแบบ ได้ ๆ เสีย ๆ จึงทำให้เราเทรดได้ดีขึ้น
มันเป็นข้อดีสำหรับคนที่เริ่มต้น เข้ามาในตลาด Forex เพราะข้อดีคือเราใช้เงินน้อย ๆ ลงทุนได้
ทำให้เราสามารถที่จะอยู่ในตลาดได้นาน สั่งสมประสบการณ์ การเทรดหรือลองวิชา ฯลฯ
และไม่ตาย จนล้างพอร์ตไปซะก่อน สำหรับคนที่ล้างบ่อย ๆ
หรือแค่ข่าว ออกวันเดียวก็หมดตัว (เหมือนที่ผมเคยโดนบ่อย ๆ 555)
ต้องลองมาปรับปรุงการวาง เงินเสียใหม่
(เรื่อง Leverage และการวางเงินอ่านได้ในตอนเก่า ๆ มือใหม่ควรอ่าน ก่อนเทรด )
เมื่อเราวางเป้าหมายแล้วที่เหลือก็ทดสอบแผนการ
จากขนาดพอร์ตที่ไม่ใหญ่ ก็จะมีการใช้ Leverage ปรับไปตามสถานะการณ์ทีได้เปรียบ
ทำให้ผลตอบแทนบางเดือน กระโดดขึ้นเยอะ (ขึ้นกับจำนวนทุน ขนาดพอร์ตและ ความเสี่ยงที่รับได้
โดยปกติแล้ว Close system ต้องวางเงินเต็มจำนวน หรือใช้ Leverage ที่ต่ำมาก ๆ )
โดยทั่วไปเรามักจะได้ยินคำถามว่า รับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ 5%, 10%, 15% ของพอร์ต
เอาจริง ๆ ถ้าโดนหรือต้อง Stop loss ขนาดนี้ก็อาจจะรับความเสี่ยงไม่ไหว (แล้วแต่บุคคล)
ถ้า Stop loss 10% จะมั่นใจได้ยังไงว่าอีก 90% ของพอร์ตที่ เหลือจะไม่เสียติดกัน
และเมื่อเทรดไปสักระยะ Mindset ของเราก็จะเปลี่ยนไป แล้วปรับให้เข้ากับชีวิตได้เอง
ทั้งเป้าหมายการลงทุน การเทรด มุมมอง เพียงแต่..ถ้าเราไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน
จากเดิมที่วางเงินน้อยอยู่แล้วจาก กฎ 2% (2% Ruels) หรือ Stop loss 2% ของเงินลงทุน
หรือทำให้เราเทรดเสีย ได้ 50 ครั้ง (หรืออาจจะใช้ 1% เทรดเสียได้ 100 ครั้ง)
โดยปกติ วิธีนี้จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพราะทำให้เรารักษาเงินต้นไว้ได้
แต่ถ้าพอเทรดเสียติด ๆ กัน อาจทำให้ Mental ของเราแย่ลงไป
เราจะยิ่งกดดันเข้าไปอีก เมื่อเราอยากได้คืน
มันก็เลยกลายเป็นว่า จากเดิมที่เรา Stop 2%
เราก็เปลี่ยนมาเป็น Buy 2% ล่ะ จะทำให้เราซื้อได้ 50 ครั้ง
เออ...ดีเหมือนกันแหะ เราจะเห็นคล้าย ๆ แบบนี้เช่น
ซื้อหุ้นแบบ DCA KZM DSM ลงทุนแนว VI หรือ ไม่ขายไม่ขาดทุน เป็นต้น
เวลาที่เราโดน Stop หรือที่เราโดนสอนว่าต้องมีวินัย เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่มีใครอยากโดนกิน Stop บ่อยๆ
แต่เราใช้ระบบไหน ต้องเข้าใจระบบที่เราใช้
ระบบในที่นี้คือทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Systemtrade, Mechanical ,กราฟเปล่า, Price Action,
สาย Indicator, VI, สายข่าว, เทคนิค, พื้นฐาน, สายเม่า, เขียวแดง,
ตัดขึ้นซื้อ ตัดลงขาย, Autotrade, EA ,ฯลฯ
- ทำให้เห็นว่า ตลาด Forex ไม่ได้ผันผวนเหมือนที่ใครก็พูดกัน ขยับวันนึงก็แค่ไม่กี่ %
- ไม่ได้เสี่ยงสูงถ้าเราใช้ความเสี่ยงเป็น และ เราสามารถที่จะอยู่รอดในตลาดได้
- Forex ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ เช่นเดียวกับตลาดหรือสินค้าอื่น ๆ
ทุกระบบใช้ได้ทั้งหมด แต่ก็จะมี Risk หรือความเสี่ยงในตัวของมันเองที่เราต้องเข้าใจ
ผู้ลงทุนต้อง ศึกษาและรับความเสี่ยงเอง...
สุดท้ายแล้วถ้าเราได้เป็น 100% เป็น 1000% แต่ต้องเสียคืนไปหมด ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
(ต่อยอดจาก Live! พี่ Mudley)
สำหรับ พอร์ตที่ใช้ ทดสอบ เป็นระยะเวลาหลายเดือน
ผลเป็นที่น่าพอใจ ดีกว่ามานั่งเทรดแบบ ได้ ๆ เสีย ๆ จึงทำให้เราเทรดได้ดีขึ้น
มันเป็นข้อดีสำหรับคนที่เริ่มต้น เข้ามาในตลาด Forex เพราะข้อดีคือเราใช้เงินน้อย ๆ ลงทุนได้
ทำให้เราสามารถที่จะอยู่ในตลาดได้นาน สั่งสมประสบการณ์ การเทรดหรือลองวิชา ฯลฯ
และไม่ตาย จนล้างพอร์ตไปซะก่อน สำหรับคนที่ล้างบ่อย ๆ
หรือแค่ข่าว ออกวันเดียวก็หมดตัว (เหมือนที่ผมเคยโดนบ่อย ๆ 555)
ต้องลองมาปรับปรุงการวาง เงินเสียใหม่
(เรื่อง Leverage และการวางเงินอ่านได้ในตอนเก่า ๆ มือใหม่ควรอ่าน ก่อนเทรด )
เมื่อเราวางเป้าหมายแล้วที่เหลือก็ทดสอบแผนการ
จากขนาดพอร์ตที่ไม่ใหญ่ ก็จะมีการใช้ Leverage ปรับไปตามสถานะการณ์ทีได้เปรียบ
ทำให้ผลตอบแทนบางเดือน กระโดดขึ้นเยอะ (ขึ้นกับจำนวนทุน ขนาดพอร์ตและ ความเสี่ยงที่รับได้
โดยปกติแล้ว Close system ต้องวางเงินเต็มจำนวน หรือใช้ Leverage ที่ต่ำมาก ๆ )
โดยทั่วไปเรามักจะได้ยินคำถามว่า รับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ 5%, 10%, 15% ของพอร์ต
เอาจริง ๆ ถ้าโดนหรือต้อง Stop loss ขนาดนี้ก็อาจจะรับความเสี่ยงไม่ไหว (แล้วแต่บุคคล)
ถ้า Stop loss 10% จะมั่นใจได้ยังไงว่าอีก 90% ของพอร์ตที่ เหลือจะไม่เสียติดกัน
และเมื่อเทรดไปสักระยะ Mindset ของเราก็จะเปลี่ยนไป แล้วปรับให้เข้ากับชีวิตได้เอง
ทั้งเป้าหมายการลงทุน การเทรด มุมมอง เพียงแต่..ถ้าเราไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน
จากเดิมที่วางเงินน้อยอยู่แล้วจาก กฎ 2% (2% Ruels) หรือ Stop loss 2% ของเงินลงทุน
หรือทำให้เราเทรดเสีย ได้ 50 ครั้ง (หรืออาจจะใช้ 1% เทรดเสียได้ 100 ครั้ง)
โดยปกติ วิธีนี้จะปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพราะทำให้เรารักษาเงินต้นไว้ได้
แต่ถ้าพอเทรดเสียติด ๆ กัน อาจทำให้ Mental ของเราแย่ลงไป
เราจะยิ่งกดดันเข้าไปอีก เมื่อเราอยากได้คืน
มันก็เลยกลายเป็นว่า จากเดิมที่เรา Stop 2%
เราก็เปลี่ยนมาเป็น Buy 2% ล่ะ จะทำให้เราซื้อได้ 50 ครั้ง
เออ...ดีเหมือนกันแหะ เราจะเห็นคล้าย ๆ แบบนี้เช่น
ซื้อหุ้นแบบ DCA KZM DSM ลงทุนแนว VI หรือ ไม่ขายไม่ขาดทุน เป็นต้น
เวลาที่เราโดน Stop หรือที่เราโดนสอนว่าต้องมีวินัย เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่มีใครอยากโดนกิน Stop บ่อยๆ
แต่เราใช้ระบบไหน ต้องเข้าใจระบบที่เราใช้
ระบบในที่นี้คือทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Systemtrade, Mechanical ,กราฟเปล่า, Price Action,
สาย Indicator, VI, สายข่าว, เทคนิค, พื้นฐาน, สายเม่า, เขียวแดง,
ตัดขึ้นซื้อ ตัดลงขาย, Autotrade, EA ,ฯลฯ
จาก เป้าหมาย : ในการทดสอบหลายเดือนมานี้
- ทดสอบ Model และผลตอบแทนจากระบบ Close System
- การอยู่รอดในตลาด ที่ใคร ๆ ก็พูดว่าผันผวนสูงมาก
- ทดสอบ Model และผลตอบแทนจากระบบ Close System
- การอยู่รอดในตลาด ที่ใคร ๆ ก็พูดว่าผันผวนสูงมาก
- สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอได้จริง ๆ ( Cash Flow )
- ทำให้เห็นว่า ตลาด Forex ไม่ได้ผันผวนเหมือนที่ใครก็พูดกัน ขยับวันนึงก็แค่ไม่กี่ %
- ไม่ได้เสี่ยงสูงถ้าเราใช้ความเสี่ยงเป็น และ เราสามารถที่จะอยู่รอดในตลาดได้
- Forex ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ เช่นเดียวกับตลาดหรือสินค้าอื่น ๆ
ทุกระบบใช้ได้ทั้งหมด แต่ก็จะมี Risk หรือความเสี่ยงในตัวของมันเองที่เราต้องเข้าใจ
ผู้ลงทุนต้อง ศึกษาและรับความเสี่ยงเอง...
สุดท้ายแล้วถ้าเราได้เป็น 100% เป็น 1000% แต่ต้องเสียคืนไปหมด ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
.png){kind=small}