เส้นทางสู่พอร์ต 500 ล้าน

19 พฤศจิกายน, 2565

เทรดจาก พัน (1,000$) สู่ล้าน EP.1

เทรดจาก พัน (1,000$) สู่ล้าน EP.1
วันที่ 19 พ.ย. 2565 ( 2022 )

การเทรดส่วนนึงได้รับแนวคิดมาจาก อ.ปุย (ประกาศิต ทิตาราม ) Waveraiders
เรื่องการนับ wave กับ indy ที่จะนำมาใช้นี้ มีทั้งเพจและช่อง Youtube 
และ อ.แบงค์ ( ณภัทร โปษะยะบุตร ) เพจ Banksy trader มีเนื้อหาฟรีให้ชมในช่อง
Youtube icmarket : ภาษาไทย เกือบจะ 100 ตอนแล้ว

Commitment: 
บันทึกการเทรดพอร์ต 1,000$ สู่ล้าน ไว้เผื่อจะได้เป็นหน้าประวัติศาสตร์ของวงการเทรด
เทรดกับพอร์ต 1,000$ ด้วยโจทย์ที่ว่า ประสบการณ์เรียนรู้ที่ผ่านมาจะช่วยให้เทรดได้ดีขึ้นบ้างไหม?
และด้วยเงินเท่านี้แบบไม่ Overtrade ควบคุมความเสี่ยง จะทำให้รวยได้หรือไม่?
โบรกที่ใช้คือ FXPRO ปัจจุบันชอบตรงที่ฝาก-ถอนเป็นคริปโตได้
และมีความน่าเชื่อถืออยู่ระดับต้น ๆ ของโลก




เริ่มเทรดก็ต้นเดือน พ.ย. 2565 ผ่านไป 2 สัปดาห์ +16% Drawdown -9.42% 
เพราะ ออกตัวแรงไปหน่อย 
เน้นคุม DD  จะไม่ให้เกิน 10% แต่เกือบไป 
วางแผนในการ จัดการพอร์ตคือ 
1,000$ Risk 1-3% = SL ทีละ 20-30$ // TP มีตั้งแต่ 0.3R-1R 
เทรดทีละ 1-3 คู่ โดยประมาณ ยกเว้นมีจังหวะจะเพิ่มเป็น 4-5 คู่ 
เทรดคู่ที่ไม่ Correlation กัน เช่น เทรด eur/usd จะไม่เทรด gbp/usd หรือ usd/jpy 

เทคนิคที่ใช้ก็เทรดตามเทรน ขาขึ้นก็ย่อ Buy / ขาลงก็เด้ง Sell
ใช้ นับเวฟบ้าง นิดหน่อย ถึงช่วงหลังการเทรดแบบ Demand/Supply / SMC จะเป็นที่นิยม
แต่ยังเทรดแบบเดิมอยู่คือ  Basic old school



ภาพบน : แสดง Stat เดือนที่ผ่านมา  winrate ไม่ได้สูงมากเพราะเข้าออกบ่อย



สรุป 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เจอทั้งข่ว Fed และ Inflation Rate ยังไม่เจอ DD หนัก ๆ เพราะทุกไม้ตั้ง SL
ตลอดไม่ปล่อยให้โดนลากเยอะ ๆ แล้วไปแก้ไม้หรือถัวเฉลี่ย




ภาพบน : แสดง History trade สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิ้งด้านล่าง การออก lot ก็คำนวณจาก 1-3% Risk

---------------------------------------

-----------------------------------------------------------
             Technical Analysis             
-----------------------------------------------------------
วิเคราะห์ทางเทคนิค


ภาพบน : indicator ที่ใช้ดูแนวโน้มและใช้ได้ง่าย ของ อ.ปุย (Waveraiders)
อ.บอกว่า เรียนแบบเสียเงินกับคลิปฟรีใน Youtube เป็นเนื้อหาเดียวกัน
สามารถ add มาใส่ได้ใน tradingview เลย



ภาพบน : การใช้ ATR  - STOP กล่าวถึง ใน EP ก่อน 
การใช้ EMA จาก Wave Tunnel ก็เป็นการบอกเทรนได้อีกทางนึง
เช่นราคาอยู่ใต้เส้นก็เล่น Sell  ส่วนระยะ TP ต้องเลือกเอาโดยอาศัย Stat เป็นต้น



ภาพบน : ไม้ที่ไม่มั่นใจ + Consolidate ในกรอบ เวลาทะลุ ราคาจะไปได้ไกล
เทรดนี้เสีย 2 ไม้ ติด เพราะอยากเอาคืน


ภาพบน : เป็นเทรนขาลง + Hidden Bearish เล่นเด้ง Sell ตามเทรนลงมา



ภาพบน : ราคาเป็นเทรนขาลง พรุ่งพรวด Break แนวต้านไปซะอย่างงั้น
ไม้นี้เจ็บเลยโดนไป -4% ของพอร์ต เพราะมั่นใจเกินไป แต่ต้องยอม SL ออกมา



ภาพบน : ไม้นี้ ถ้าหลุดแนวรับ คงต้องยอม ถือมา 3 วัน กู้คืนจากไม้ด้านบนได้



ภาพบน : ถึงราคาจะอยู่ใต้เส้น+Dow เป็นขาลง ทำจุดต่ำสุดลดลง
แต่ก็มีหลายครั้ง ที่เกิดแท่งเทียนกระชากขึ้นไปแบบ Bullish trend



ภาพบน : ช่วงเทรดเสียติด ๆ กันก็มีเหมือนกัน / เข้าผิดหรือไม่ชัวร์มองเกมไม่ขาด ก็ต้องปิดออก
แล้วค่อย ๆ เทรดสะสมไป



ภาพบน : ราคาใจดีไหลลงม้วนเดียวจบ



ภาพบน : บางจังหวะก็ได้ทั้ง Sell และ Buy * การเทรดสวนเทรนควรมี SL ทุกครั้ง




ภาพบน : พอร์ตนี้ไม่ได้เทรดทอง แต่มองว่าราคาอาจจะย่อตัว (สวนเทรน)
จึงไปเทรดคู่ USDCAD แทน


---------------------------------------

widget

* Disclamer ผลงานในอดีตไม่ได้การันตี ผลตอบแทนในอนาคต
บันทึกไว้เป็นกรณีศึกษา และเป็น Trade journal สำหรับผู้ที่สนใจ 

หากเห็นว่ามีประโยชน์สามารถสนับสนุนเว็บโดยการสมัครเปิดบัญชีใต้ลิ้งค์

15 พฤศจิกายน, 2565

รักษาพอร์ตไม่ให้ปลิว

รักษาพอร์ตไม่ให้ปลิว พอร์ตระเบิด

วันที่ 15 พ.ย. 2565 

โดยปกติแล้วเทรดเดอร์ถูกสอนมาให้ตั้ง SL ที่ 2% ของพอร์ต
ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย และเพียงพอในการฝึก เบื้องต้น

เช่น พอร์ต 1000$ SL ทีละ -20$ /TP 40$ ง่าย ๆ

เรามักจะถูกสอนและเชื่อในสิ่งที่เราเห็นเช่น อัด lot/เบิ้ล/ถัวเฉลี่ย

พอร์ต 1000$ เทรด 0.01 lot (บางคนอาจหัวเราะในใจ เทรดยังไงจะรวย?)
(ถ้าเทรดยังไม่รอด อย่าเพิ่งพูดถึงว่าจะรวย)

------------------------------


มักมีคำถามเกิดขึ้นมาว่า ในการเทรด หรือพอร์ตสอบกองทุน
มีใครที่รักษาพอร์ตได้นานไหม?

------------------------------


สิ่งที่แตกต่างสำหรับพอร์ต Fund อย่างพวก FTMO MFF ฯลฯ
คือช่วงแรกเราต้องอัด lot ให้หนัก เพราะมี เวลาเทรด 30 -60 วัน ในช่วงสอบก่อนได้พอร์ตจริง

คำถาม ถ้าสอบผ่านแล้วจะไปอัด lot ทำไม?
จะมีเทรดเดอร์ 2 แบบ คือ
1.เน้นอัด lot ถ้าตกก็แค่สอบใหม่ 
2.เทรด lot น้อยเพื่อรักษาพอร์ต





การเทรด ถ้ายังเทรด 5 ไม้ 10 ไม้แล้วพอร์ต ระเบิดก็ไม่แปลกที่จะรักษาพอร์ตได้
พื้นฐาน SL 2% ก็ยังเทรดได้ถึง 50 ไม้

ใครที่เคยฝึกพอร์ต 1000$ แล้วยิงทีละ 0.01 lot แบบมี sl ทุกไม้
คำถามคือพอร์ตจะระเบิดไหม? (ให้ไปลองฝึกดู)

ถ้า SL ได้ 200 ไม้ คำถามคือ ทำยังไงพอร์ตจะระเบิด?

รีวิวพอร์ตสอบ ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา

บันทึกการเทรด 14 พ.ย. 2565



ลองมาดู 1 ใน พอร์ตสอบรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา

ค่อนข้างหืด เนื่องจากมีข่าวสำคัญของ FED
ในวันที่ 3 พ.ย. 2565
ตลาดค่อนข้างไปทาง Consolidate ก่อนที่ข่าวจะออก 1-2 วัน้
ช่วงนั้น พยายาม BIAS ว่า USD จะแข็ง
คือเน้น Sell พวกคู่เงิน xxx/usd หรือทองคำ
ทำให้ไปเข้าก่อนจังหวะและเทรดเสีย
และสุดท้ายก็อ่อนได้ แป๊ปเดียวทองก็เด้งใส่หน้า
จนต้องร้องขอชีวิต



สัปดาห์ต่อมามีข่าว Infration Rates
ในวันที่ 10 พ.ย. 2565
ตลาดเงียบเหงาก่อนช่วง 1-2 วัน
แล้วเทรดเสียติด ๆ กัน (เหมือน สัปดาห์ก่อน)
แล้วไป BIAS ว่า USD จะอ่อน
คือเน้นไปทาง Buy พวกคู่เงิน xxx/usd หรือทองคำ
อันนี้ดีหน่อย ที่ถูกทาง
( มีสัญญาณ จาก ทองคำที่ทำขา A-B-C จบ แล้วเด้งขึ้นรุนแรง)


--------------------------
จึงเห็นว่าพอร์ตไม่ขยับไปไหนประมาณ 2 สัปดาห์
แต่ก็ดี ที่ไม่ได้ Drawdown มากเกินไป
-------------------------





มีเหตุการณ์สำคัญคือ กราฟ ค้างไป 30 นาทีของ Broker CTI (Citytradersimperium)
แล้ว เป็นตัวที่ถือออเดอร์อยู่ 3 ตัว สุดท้าย ถูกทางเลยรอดมาได้


01 พฤศจิกายน, 2565

ว่าด้วยเรื่องการเทรด ATR / Position Size และ Entry + Exit กับ Stat

ว่าด้วยเรื่องการเทรด ATR / Position Size  และ Entry + Exit กับ Stat

บันทึกวันที่ 01-Nov-2022

    เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ กำหนด RR ง่าย ๆ อย่าง 1% 2%

ยกตัวอย่าง พอร์ต 1000$ จะเสียได้ทีละ 10-20$ ก็จะใช้ lot ที่ไม่เท่ากัน

หรือบางคนอาจจะเทรดแบบ fix lot  เช่น 0.05lot ตลอดทุกคู่  


แต่เนื่องจากความผันผวนของราคา Volatility แต่ละคู่เงินเงินไม่เท่ากัน

เครื่องมือแรกที่เอามาช่วยคำนวณ lot ง่าย ๆ เช่น

https://www.myfxbook.com/forex-calculators/position-size

x
ภาพบน ตารางคำนวณ lot size ของ Myfxbook



ทบทวนตามตัวอย่าง ง่าย ๆ   

              พอร์ต 1000$ 2% = 20$  SL=50 pip จะออก lot ได้ 0.04 lot

        ถ้า  พอร์ต 1000$ 2% = 20$  SL=100 pip จะออก lot ได้ 0.02 lot  เป็นต้น


----------------------------------


ATR (average true range)

ภาพบน : แสดง ATR ค่า default = 14


( ครั้งนึงพี่ต้าน mudleygroup เคยเอา ATR มาพูดไว้หลายปีแล้ว
ปัจจุบันก็มีเทรดเดอร์หลายท่านพูดไว้อย่างมากมาย สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้
จึงขอสรุปเอาไว้สั้น ๆ )

อีกเครื่องมือนึงคือ indicator นึงที่นิยมใช้ ดูความผันผวนของราคา อย่าง ATR ( 14 day ค่า defalut )

จะเห็นว่า ราคา XAUUSD ใน 1 วัน = 23.8 ตีความว่าในหนึ่งวันแล้ว

ทองคำจะวิ่งอยู่ประมาณ 23.8$ หรือ 238 Pips

 ตัวอย่าง : ถ้าเรา TP ที่ 10$ หรือ 100 Pips ใน 1 วัน จะมีโอกาสที่เราจะเก็บกำไรได้นั่นเอง

                ถ้าเรา TP สัก 40$ อาจจะต้องใช้เวลาหลายวัน

เราจึงนำมาใช้กำหนด กลยุทธ์ในการเทรด TP - SL ต่อไป


----------------------------------

Entry + Exit กับ Stat

ภาพบน : การเข้า แบบ breakout โดยใช้ atr กำหนดแผน

ตัวอย่าง-1 breakout buy ที่แท่ง bullish  SL=2% ที่ low = 20$ เราก็เข้าที่ 0.01 lot

เราจะเห็น ว่า ราคาวิ่งไปได้ 14$ ก็ไหลกลับลงมา ถ้าเรา TP ที่ 10$ เราจะได้แค่ 0.5 RR

อ้าว!..เราถูกสอนมาว่า RR ( Risk:Reward ratio ) ควรจะได้ 1:2 1:3 ขึ้นไปในการเทรดนี่..?


นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้อง รู้ stat ของตัวเอง ในการเทรด

แล้วเราก็เอามากำหนด winrate / RR ในการเทรด ด้วยสมการง่าย ๆ

ที่เราถูกสอนมาว่า RR 1:2 winrate  > 40-50% เราก็จะอยู่รอดในตลาดได้

แต่ถ้าเราทำ winrate 70-80% RR 1:0.5 / 1:1  เราก็อยู่รอดในตลาดได้เหมือนกัน



ภาพบน การเข้าแบบ ย่อ Buy

ตัวอย่าง-2 เมื่อราคา breakout ก็หาจังหวะย่อ buy ตามเทคนิคต่าง ๆ fibo / pric action ฯลฯ

หากเราเลือก SL ที่ low SL=14$ เราจะเห็นว่าราคาวิ่งไปถึง 20$

หากเรา TP=10$ SL=14$ จะเท่ากับ 0.7 RR 

หรือหากเราจะบีบ SL ให้แคบลง 10$ เพื่อยิง 0.02 lot แล้ว TP=5$ ก็จะได้ RR 1:0.5

หรือ SL 10$ แล้ว TP 10$ ยิง 0.02lot เพื่อเพิ่ม RR เป็น 1:1 เราก็ทำได้เช่นกัน


ภาพบน SL สั้นเพื่อให้ได้ RR สูงสุด

ตัวอย่าง-3 อาจใช้ SL สั้นโดยใช้ แท่งเทียน Stoploss เพื่อบีบ SL ให้สั้นลงอีก 

อาจได้ RR สูงระดับ 1:5 1:10 เลยทีเดียว




* Tips บางคนก็ใช้ ATR-Day ใน การวาง Stoploss ซึ่งโอกาสโดนในแต่ละวันก็จะน้อย

ถ้าเราเทรดแล้ว TP ก็จะมีโอกาสเพิ่ม winrate ให้ระบบเทรดเราได้อีกทาง

----------------------------------


ภาพบน แสดง stat จาก myfxbook

ตัวอย่างภาพบน แสดง winrate อยู่ประมาณ 60% Profit factor=3.94

หมายถึง หากเราต้องการ winrate เพิ่ม

อาจจะกำหนด TP ให้สั้นลงได้ เพื่อ TP ให้ไวขึ้น

หรือ ถ้าต้องการเพิ่ม RR ให้สูง แต่ระดับ winrate อาจจะลดลงเหลือ 50% เป็นต้น

อาจดู stat อื่น ๆ ประกอบอย่าง Average Win/Loss , Best trades/Worst trades ฯลฯ ประกอบ


สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ Stat ของตัวเองเสียก่อนว่าเราทำ winrate กับ RR ได้เท่าไหร่

ไม่ว่าเราจะเข้าด้วยเทคนิคแบบไหน ถ้ามี Stat ของตัวเองแล้วก็นำมากำหนดกลยุทธ์ได้หลากหลาย

ซึ่งเทรดเดอร์มือใหม่ยังขาดประสบการณ์ในการฝึกฝนอยู่

โชคดีร่ำรวย ครับ