เส้นทางสู่พอร์ต 500 ล้าน

31 มกราคม, 2558

วิเคราะห์ FOREX ไทย ประจำสัปดาห์ 2 - 6 ก.พ. 2558

วิเคราะห์ FOREX ไทย ประจำสัปดาห์ 2 - 6 ก.พ. 2558
 Forex Preview 2 - 6 
Febuary  2015 by Fx2trade.com
EURUSD 4H : Bearish (Strong Trend)

ราคายังคงวิ่งลงมาอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการพักตัวบริเวณตำแหน่ง Fibo 50%
และเส้น EMA 40 วัน
คาดว่าจะเริ่มออกวิ่งตามแนวโน้มเดิม
แนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ @1.110-1.115 หรือ  Fibo 100%

Buy : หาจังหวะซื้อบริเวณ support 
Sell : ลงมาบริเวณแนวรับหรืออาจจะถือหากหลุด support ลงมาได้

 

--------------------------------------------------------------------------------

GBPUSD 4H : Bearish (Weak Trend)
ราคาเริ่มอ่อนกำลังลง RSI เกิด Divergence ในฝั่งขาลง
คาดว่าราคาอาจจะพักตัวก่อนที่จะ ไปต่อหรือกลับตัวในฝั่งขาขึ้น

Buy : แนวโน้มอ่อนกำลัง หาจังหวะซื้อบริเวณ support 
Sell : หลุดแนวรับลงมา/หาจงหวะ Sell ตำแหน่ง Resistance ด้านบน


--------------------------------------------------------------------------------

GBPJPY 4H : Bearish (Weak Trend)
ราคาทำรูปแบบคล้าย GBPUSD สามารถใช้กลยุทธ์เดียวกันได้
ราคาเริ่มอ่อนกำลังลง RSI เกิด Divergence ในฝั่งขาลง
คาดว่าราคาอาจจะพักตัวก่อนที่จะ ไปต่อหรือกลับตัวในฝั่งขาขึ้น

Buy : แนวโน้มอ่อนกำลัง หาจังหวะซื้อบริเวณ support 
Sell : หลุดแนวรับลงมา/หาจงหวะ Sell ตำแหน่ง Resistance ด้านบน



--------------------------------------------------------------------------------

AUDUSD 4H : Bearish (Strong Trend)
ราคามีความเป็น Bearish ชัดเจน มีจุดราคาทำ High/Low ก่อนหน้า
ที่เป็นระดับแนวต้าน อยู่ 2 ตำแหน่ง

Buy : ควรเก็บสั้น ๆ 
Sell : หาจังหวะที่ราคาพักตัว แล้วเปิด Sell


--------------------------------------------------------------------------------

USDJPY 4H : Sideway/Consolidate

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคา ยังคงพักตัวอยู่ในกรอบ
รูปแบบสามเหลี่ยม มีความเป็นไปได้ ว่าจะไปได้ทั้งสองทาง

ในภาพใหญ่ราคายังคงมีความเป็น Bullish หากเล่นทางเดียว
หาจังหวะเปิด Buy

Buy : Breakout Buy
Sell : Breakout Sell










26 มกราคม, 2558

FOLLOW UP USDJPY 4H กับกลยุทธ์ที่ต่างกัน : 12 - 26 มกราคม 2558

ในแต่ละวันหรือสัปดาห์เราจะวิเคราะห์ เพื่อที่จะหาจุดเข้าออก
มาวางแผนในแต่ละวันหรือการเทรดแต่ละรอบ

----------------------------------------------------------------------------------------

จาก : Preview USDJPY ช่วงสัปดาห์ก่อน 12-16 ม.ค. 2558

USDJPY 4 H
ราคากำลังมาทดสอบบริเวณ แนวรับ Low เดิม
หากผ่านไปได้มีโอกาศ วิ่งลงที่แนวรับที่ 2
หาจังหวะเปิด Buy ถ้าไม่ผ่าน หรือ Sell ถ้าราคาวิ่งทะลุลงมา

----------------------------------------------------------------------------------------
การเทรดดักที่แนวรับแนวต้าน หรือ เล่นแบบ Price Action
หลังจากวิเคราห์แนวโน้มจากกราฟราคาแล้ว
ก็มาวางกลยุทธ์ก่อนว่า เราจะเล่นแบบไหน 

โดยปกติเมื่อเรา ได้เส้นแนวรับ/ต้าน ก็จะมารอ จุดกลับตัวของราคา
ซึ่งถ้าเกิด แท่ง Pinbar โอกาสที่กราฟจะกลับตัวหรือเด้งขึ้น ก็จะมีสูง
การเข้าแบบนี้นิยม ใข้ Risk:Reward มาเป็นตัวกำหนด MM ในการเข้าแต่ละครั้ง

จากรูปล่าง : ถ้าเข้าโดยเกิดแท่ง Bullish ขึ้น 2 ครั้ง ก็อาจจะโดน Stop ออกไป
วิธีนี้จะนิยมเข้าที่แท่ง Pinbar/หรือ Hammer สำหรับคนที่รอเกิดแท่ง Pinbar ก็อาจจะไม่ได้เข้า




* * สามารถใช้วิธี Blending Candle Stick ในการ มองก็ได้ด้วยเช่นกัน
เพราะเวลาเปิดปิดแต่ละ Broke อาจจะต่างกัน แท่งเทียนแต่ละแท่งก็จะมีนัยยะไม่เท่ากัน
การ Blending Candlesticks


----------------------------------------------------------------------------------------

การเทรดแบบ Break Out ครั้งนี้ดูเหมือนจะเข้าท่ากว่า
Sell บริเวณตำแหน่งที่หลุด กรอบด้านล่างลงมา แล้วราคาก็วิ่งลงมาอย่างรุนแรง
ลงไปทดสอบบริเวณ Support/แนวรับ

Exit : การใช้เส้น EMA-34 วันในการทำ Trailing Stop ดูเหมือนจะ คืนกำไรมาพอสมควร
เผลอ ๆ อาจจะโดนจุด Break Even หรือ เท่าทุนไปเลย


----------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าลองกำหนดเป้า จาก Fibonacci กับบริเวณ แนวรับ

สามารถเลือกออก ได้ที่บริเวณแนวรับ/Support
หรือกำหนดเป้า Fibo.ในการออกก็ได้

ครั้งนี้ดูเหมืนการกำหนดเป้า TP ในการออก จะได้กำไรไปอย่างสวยงาม


----------------------------------------------------------------------------------------


มีจังหวะในการสวน หรือเล่น แบบ Price Action บริเวณแนวรับ ได้อีกรอบ
การกำหนดช่วง Stop หรืออัตราส่วน R:R  ก็จะให้ผลที่ต่างกัน
- Stop ใกล้ ได้กินเยอะ แต่ความแม่นยำก็จะต่ำ มีโอกาสที่ราคาวิ่งขึ้นลง แรง ๆ
- Stop ไกล โอกาสเสียก็จะน้อยกว่า แต่ Reward ที่ได้ก็จะต่ำ
ควรฝึกฝนให้ชำนาญ


----------------------------------------------------------------------------------------

สารมารถกำหนด อัตราส่วน R:R ใน Fibonacci เพื่อง่ายต่อการ เข้า-ออกก็ได้ด้วย เจ๋งมั้ยล่ะ?


----------------------------------------------------------------------------------------

การเข้า-ออก แต่ละครั้ง ให้ความแม่นยำและผลลัพธ์ที่ต่างกัน
บางคนชอบตามเทรน ไม่ชอบสวน เพราะกลัวโดนลาก
บางคนชอบสวนไม่ชอบตาม เพราะ ราคาแพงแล้วไม่อยากซื้อ

บางคนชอบกินเร็ว กินสั้น กินยาว 
บางคนชอบเทรดทุก ๆ วัน กินบ่อย ๆ
บางคนรอนาน ๆ รอรอบราคาค่อยเข้า

ชอบวิธีไหนก็ฝึกฝนให้เก่ง ๆ แต่ละวิธีการไม่สามารถนำมาใช้เทรดได้กำไรทุกครั้ง
โชคดีร่ำรวย ครับ
fx2trade.com

25 มกราคม, 2558

เรื่องการวางเงิน กับกลยุทธ์การเทรด

เรื่องการวางเงิน  กับกลยุทธ์การเทรด
เทรดจำนวนเท่าไหร่ กี่ Lot กี่ Unit เท่าไหร่ดี?

การวางเงินในการเทรดแต่ครั้ง ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์วิธีการเทรดของเรา
แผนการเทรด เป็นตัวกำหนด MM - (Money Management)
ขึ้นกับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้
ขนาดทุนแต่ละครั้งไม่เยอะ ก็สามารถเทรดจำนวนครั้งที่มากได้
ยอมขาดทุนครั้งละมาก ๆ ก็จะใช้จำนวนเทรดลดลง

ในบทความนี้จะขออธิบายง่าย ๆ และสามารถนำไปใช้งานได้จริง
ส่วนเรื่องทฤษฎี จะไม่ขอกล่าวในที่นี้

-------------------------------------------------------------------------------

สิ่งที่ควรเข้าใจก่อนคือ Pip กับ Lot ที่ใช้กันแพร่หลายในโปรแกรม MT4 (Meta Trader)
จำนวนเทรด Lot ที่ใช้กัน มาตรฐาน หรือ Standard Lot และหน่วยเป็น US.Dollar

- เทรด 0.01 Lot จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 0.1 $
- เทรด 0.1  Lot จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 1 $
 - เทรด 1 Lot จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 10 $

แต่จะมีบางโบรกเกอร์ที่เป็นบัญชี Mini หรือ Lite จำนวนเทรดก็จะลดลง เช่นใน Instaforex
- เทรด 0.01 Lot จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 0.01 $
- เทรด 0.1 Lot จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 0.1 $
- เทรด 1 Lot จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 1 $




ในโปรแกรม ที่แตกต่างกัน จะมีการเทรดที่เป็น Unit หรือ Quantity เช่น
- เทรด 100 unit  จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 0.01 $
- เทรด 1000 unit  จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 0.1 $
- เทรด 10000 unit  จะได้กำไร/ขาดทุน จุดละ = 1 $




-------------------------------------------------------------------------------
กลยุทธ์ 2% Rules/ Risk:Reward/ Payoff Ratio
ที่ใช้กันแพร่หลาย

สิ่งหนึ่งที่ผู้เทรดควรมีคือการเทรดเพื่อรักษาต้นทุนให้อยู่รอด
แล้วหลังจากนั้น จึงทำกำไร

แต่มีผู้เทรดจำนวนไม่น้อย เทรดแบบเดิมพัน วัดดวง..ไม่ได้ก็เสีย
ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่แนะนำ ทำให้รวยได้เร็วจริง แต่เวลาเสีย ก็จะเสียทั้งหมด
การสร้างพอร์ตให้่โตอย่างรวดเร็ว รวยเร็ว ๆ อาจจะไม่เหมาะกับบางคน

- มีการนำกฏ 2% Rules มาใช้ เป็นทางเลือกหนึ่ง
ตัวอย่าง : ทุน 1,000$ / จุด Stop Loss ของเราจะอยู่ที่ 20$ ต่อการเทรด 1 ครั้ง

เมื่อเรานำ MM-Model นี้ มากำหนดแผนการ เทรด เข้า-ออก
โดย คำนวนจากจุด Stop Loss ก็จะสามารถควบคุมความเสี่ยงกับพอร์ตของเราได้แล้ว

------------------------------------------------------------------------------
การเทรดแบบ Price Action 
และกลยุทธ์ Risk : Reward Ratio ที่นิยมกันแพร่หลาย
Entry : การเข้าซื้อเมื่อเกิดแท่งกลับตัว Pinbar/Engulfing ฯลฯ กลับตัวในฝั่งขาขึ้นหรือขาลง
แท่งลักษณะนี้จะมีนัยยะมาก ถ้าเกิดบริเวณแนวรับแนวต้านของราคา



------------------------------------------------------------------------------
เมื่อราคามาทดสอบบริเวณ แนวรับ/ต้าน จากนั้นเกิด แท่งกลับตัว Pinbar/Hammmer
เราจะได้จุดเข้าที่แท่ง และกำหนดจุด Stop Loss ไว้ 30pips (หรือเท่ากับ 300 pips ในโบรก 5 จุดทศนิยม)
TP ที่เรา มองหาจะได้ เป็นจำนวนเท่าของจุด Stop Loss เช่น
1 เท่า หรือ 1R - 30 Pips
2 เท่า หรือ 2R - 60 Pips
3 เท่า หรือ 3R - 90 Pips
4 เท่า หรือ 4R - 120 Pips

* Break Even Point หรือ BE คล้าย กับการทำ Trailing Stop
โดยเราเลื่อนจุด Stop มาเป็น บริเวณจุดที่เราซื้อ..เพื่อปกป้องการขาดทุนนั่นเอง

เรานำ MM มาคำนวนเราจะสามารถเปิด ออเดอร์ได้ที่
0.1 Lot / Stoploss 20 pips ซึ่งถ้าเราเสีย ออเดอร์นี้ จะ Loss แค่ -20$ ต่อการเทรด 1 ครั้ง
หรือคิดเป็น 2% ของพอร์ต

ถ้าเราเปิด 0.2 Lot/Stoploss 20 pips ถ้าเสียจะ Loss -40$ = 4% ของพอร์ต
ทีนี้จะเทรดกันเท่าไหร่ก็คำนวน กันให้ดี ๆ ว่าเรายอมรับการเสียครั้งนี้ได้หรือไม่
ถึงมีคนแนะนำว่า ยอมเสียที่ 10% 15% ของพอร์ต ถ้าเราเสียจริง ๆ เรายอมรับได้ไหม

ถ้าเทรดเสียติด ๆ กัน 4 ครั้ง 5 ครั้งพอร์ตเราไหวหรือเปล่า?
การกำหนด MM เป็นเรื่องพื้นฐาน ควบคุ่กับแผนการเทรดของเรา
แต่ไม่ค่อยมีใครบอกให้เราเห็นถึงความสำคัญ
บ้างก็บอกว่า มีวินัยทำตามระบบ..แต่ ๆ ๆ ทำตามระบบทำได้ครับ
ก่อนจะทำตาม ควรจะศึกษาให้ดี ๆ ก่อน นำมาใช้แล้วกันเนอะ



Exit-1 : การกำหนดจุดออก สามารถทำได้หลายแบบ
ขึ้นอยู่กับความพอใจและความชำนาญ โดยส่วนใหญ่ TP ที่ใช้กันจะอยู่ที่ 2R-3R
ข้อดีคือ : มีความแม่นยำระดับหนึ่ง และปิดทำกำไรได้ในราคาที่ดี
ข้อเสีย : ขายหมู

Exit-2 : การทำ Trailing Stop โดยใช้จำนวน R:R ในรูป เมื่อราคาวิ่งไปที่ 5R
แล้วราคาไม่ไปต่อ จะออกได้ที่ 4R
ข้อดี : ทำกำไรได้มากกว่าแบบแรก
ข้อเสีย : หลาย ๆ ครั้ง ราคาวิ่งมาชน Stop แล้ววิ่งต่อทางเดิม ทำให้เสียโอกาส

Exit-3 : การเกิดการกลับตัว ของราคา /แท่งเทียน/หรือ Pattern
ข้อดี : ราคาสามารถวิ่งไปได้ไกล
ข้อเสี่ย : ราคาคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว

------------------------------------------------------------------------------

การ มองหาแนวรับ/แนวต้าน เพื่อกำหนด Exit



จากรูป เมื่อทำการ Entry ไปแล้ว
TP-1  จะอยู่บริเวณ ยอดก่อนหน้า
TP-2  หากยังไม่เกิดการกลับตัวของราคา ก็จะมองไป แนวรับ/ต้าน ถัดไป ทางด้านบน
หรือ Exit เมื่อเกิด แท่งกลับตัว ที่เป็น Bearish Engulfing

* นิยมนำ indicator มาใช้ประกอบการเทรด
อย่างเช่น Stochastic CCI RSI รอเข้าซื้อในจุดที่ ต่ำ เพื่อให้ได้ราคา
ที่ดีและมีความแม่นยำเพิ่มมากขึ้น

------------------------------------------------------------------------------

การเทรดแบบ Break Out/ Let Profit Run/ Trailing Stop/ Fibonacci Target
- การเข้าและกำหนดอัตราส่วน R:R ก็สามารถทำได้เช่นกัน
เมื่อราคาเบรกขึ้น เป็นแนวโน้ม วาง Stop และกำหนด TP เป้าหมาย


 ------------------------------------------------------------------------------

- หากเราใช้จำนวน Stop ที่ใกล้ จำนวน Reward  ก็จะเพิ่มสูงมากขึ้นด้วย
แต่ควรใช้อย่างระวัง เพราะราคา อาจจะเหวี่ยงขึ้นลง รุนแรง

 ------------------------------------------------------------------------------


- หลายคนเห็นราคาขึ้นมาเกิด Divergence ก็ทำการสวน Sell ซะเลย
Sto สูง RSI เกิด Overbought เป็นจุดที่ผู้เทรดส่วนใหญ่มักจะทำพลาด
ในจุดนี้ ควรเทรดด้วยความระมัดระวัง 

------------------------------------------------------------------------------

- จากนั้นราคาก็ขึ้นต่อ RSI STO เกิด False แล้วบอกว่า เครื่องมือ ใช้ไม่ได้ผล?
- นอกจากนั้นแล้ว สามารใช้เส้น EMA ในการออกหรือทำ Let Profit Run / Trailing Stop ได้อีกด้วย


-การกำหนดเป้า Fibonacci /Fibo Extension หรือ Fibo Expansion ในการออกเป้า
ที่ระดับ 161.8% ,261.8, 200%,
เป็นวิธีที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้กันอย่างมาก และ เครื่อง มือ Fibo เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่แล้ว
ว่ามีความแม่นยำสูงมาก หากใช้อย่างถูกวิธี

แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะการปิดออเดอร์ครั้งนี้
อาจเป็นการ การันตีว่าเราได้ขายหมูไปแล้วตัวเบ่อเร้อ!



กลยุทธ์การเข้า-ออก ไม่ว่าวิธีไหน ๆ ก็มีทั้งข้อดี-ข้อเสีย
สำคัญที่เราใช้แล้วต้องฝึกให้ชำนาญ มีความเข้าใจในเครื่องมือก่อนนำมาใช้งาน
ก่อนที่จะบอกว่า indicator มันใช้ไม่ได้ผล

หรือบางคนชอบเทรดกราฟ เปล่า ๆ ก็ไม่ผิด หากแต่เทรดเดอร์ทุกคน
ก็หวังที่จะให้การเข้าออเดอร์ครั้งนี้ ปิดด้วยการทำกำไรให้ได้...


โชคดีร่ำรวย ทุกคนครับ
fx2trade.com









24 มกราคม, 2558

เริ่มต้นวิเคราะห์กราฟ Forex สไตล์ fx2trade.com

เริ่มต้นวิเคราะห์กราฟ Forex สไตล์ fx2trade.com

ต้องมีกลยุทธ์ก่อน ว่า เราชอบสไตล์ไหน
Trend Follow , Sclap, Swing, Fundamental, การใช้ EA - Expert Advisors หรือเรียกว่า Robot Trade

ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือ Indicator ต่าง ๆ หรือการเทรด กราฟเปล่า ๆ ก็ตาม
เราถนัดแบบไหน ก็เลือกใช้ ไม่มีวิธีการไหนและเครื่องมือไหน ที่ดีที่สุด
เพียงแต่เราต้องเลือกนำมาใช้ให้ถูกเวลา เทรดแล้วได้กำไรก็อันนั้นแหละ!
และควรศึกษาให้ดีก่อนนำมาใช้งานจริง ๆ ถึงเราจะเทรดเสีย
ไม่ได้แปลว่าเครื่องมือใช้ไม่ได้ แต่ขึ้นอยู่กับการนำมาใช้งานด้วย

วางแผนในการเข้า และการออกด้วยทุกครั้ง

อาจจะมีปัญหาบ้างสำหรับผู้เริ่มต้น สิ่งสำคัญคือใช้เวลากับมันให้มาก

หรือการนำ กฎพื้นฐานมาใช้
1. The market discounts everything.  - ราคาได้สะท้อนทุกอย่างให้เราเห็นใน Chart แล้ว2. Price moves in trends. - ราคาวิ่งเป็นแนวโน้ม
3. History tends to repeat itself. - วัฏจักรมักเกิดซ้ำ ๆ 
 (รายละเอียดหาได้จากใน Google)

การนำ Indicators ต่าง ๆ มาใช้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรหยิบมาใช้ให้ถูกช่วงเวลา
เครื่องมือแต่ละประเภทเหมาะกับสภาพตลาดแบบไหน เป็น Trend ไม่มี Trend Sideway/Consolidate
ไม่ใส่เครื่องมือ เยอะเกินไปจะทำให้ หน้าจอดูยาก



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การวิเคราะห์ข่าวกับการเลือกคู่เทรดในแต่ละวัน
ซึ่งมีผลกับราคาในช่วงเวลานั้น ๆ บางคนชอบเทรดช่วงข่าวออก-เร็วแรงซิ่ง..
แต่สำหรับคนที่มีออเดอร์อยู่แล้ว ก็ต้องระวังช่วงนี้ให้มาก

หรือบางคนอาจจะหลีกเลี่ยงการเทรดคู่เงินในช่วงนี้
investing.com

forexfactory.com

myfxbook.com--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเลือกคู่เทรดกับสไตล์การเทรด
ช่วงที่ราคาวิ่งเป็นแนวโน้ม เหมาะกับการเล่นแบบ Trend Follow
เครื่องมือที่นำมาใช้ประกอบอาจจะเป็น
Moving Average, MACD, ADX ,Boliger Band, Ichimoku, 


ช่วงราคาไม่มีแนวโน้ม ถ้าเล่นตามแนวโน้มก็จะโดนสับขาหลอก
บางคนชอบเล่น ซื้อแนวรับ/ขายแนวต้าน หรือ เทรดสวนไป-มา ในกรอบ
เครื่องมือที่ใช้ Stochastic , RSI, CCI, 
บางคนก็เลือกที่จะไม่เล่นอยู่ที่ว่า ชอบสไตล์ไหน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การหาจุดเข้า-ออก / Buy-Sell
ไม่ว่าจะเป็นการดู Price ราคา แท่งเทียน Indicator
สำคัญที่ใช้วิธีไหนควรฝึกให้ชำนาญ

การเล่นในกรอบ ขึ้นลง ตามแนวรับแนวต้าน
ตีเส้นหากรอบราคา หรือใช้ indicator มาประกอบ เพราะบางคนชอบเล่นแบบสวน
ข้อดี : กินได้เร็วไว .. ใช้ในช่วงที่ราคาไม่มีแนวโน้ม หรือไม่มีให้เล่น
ข้อเสีย : คือ ถ้าราคาเป็นแนวโน้ม อาจจะโดนลากได้


การเทรดแบบ Breakout
ซื้อที่ราคาแพงแล้วไปขายในช่วงที่ราคาแพงกว่า
หาช่วงที่ราคา sideway/consolidate ออกข้าง
สุดท้ายราคาจะเลือกข้างใดข้างหนึ่งแล้วจะวิ่งเป็นแนวโน้ม

ข้อดี : กินได้เยอะ ยาว
ข้อเสีย : รอนาน กว่าราคาจะเกิดแนวโน้ม


ซื้อตอนราคาย่อตัว Buy on the Dip
บางคนกลัวซื้อตอนที่ราคาแพงแล้ว
จึงรอให้ราคาลงมาจึงเข้าซื้อเพื่อได้ต้นทุนที่ดีกว่า
อาจจะใช้เครื่องมือ Fibonacci /แนวรับแนวต้าน/และการดู Price มาประกอบ
ข้อดี : ซื้อได้ต้นทุนที่ดี และถูกกว่า
ข้อเสีย : ซื้อแล้วราคาลงต่อ


การใช้ indicator หาสัญญาณเข้า-ออก
ก็สามารถที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ EMA ในการ Cross
หาจังหวะซื้อจาก MACD หาการแกว่งตัวของราคาจาก RSI CCI STOCHASTIC
ข้อดี : สังเกตได้ง่าย, สามารถนำมาสร้างระบบเทรดได้หลายรูปแบบ
ข้อเสีย : Indicator แต่ละตัวเหมาะ กับสภาพตลาดที่ไม่เหมือนกัน เมื่อนำมาใช้ผิดเวลา
 --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การหาจุดออก Exit 
ในการเข้าซื้อ-ขายแต่ละ ครั้ง ควรวาง กลยุทธ์ในการออกที่ดีด้วย
ว่าการเข้าครั้งนี้ จะออกแบบไหน

การหา Exit จาก แนวรับ/แนวต้านเดิม  ( Support/Resistance )
ราคามักจะวิ่งไปทดสอบ บริเวณแถว แนวรับต้านเดิม และการเกิด ซื้อขาย-ทำกำไร
การใช้เส้น แนวนอน (Horizontal Line), Trendline หรือ จุดต่ำ-สูง ในอดีต

การทำ Let's Profit Run หรือการทำ Trailing Stop
- การใช้ EMA ในการออก เส้น 13วัน, 15วัน, 26วัน, 34วัน
- การดู Divegence สำหรับ RSI ,MACD
- หรือ Stop เมื่อหลุด High/Low ก่อนหน้า ก็สามารถทำได้เช่นกัน
- หรือการดูแท่งเทียน เมื่อเกิด Bullish/Bearish Pattern


การวัดเป้าหมายราคาจาก Pattern, หรือ Fibonacci Tool
การหาระดับ Fibo ที่มีนัยยะการกับหาเป้าหมายราคาเมื่อเกิดการ Break Out


ไม่ว่าเครื่องมือหรือวิธีการไหน ก็จะมีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกัน
สำคัญที่เลือกเครื่องมือให้เหมาะสม-สภาพตลาด
และวิธีการกับเวลาที่เรามี

ควรฝึกฝนบ่อย ๆ การดู Price ราคา แท่งเทียน,
การใช้ Indicator แต่ละประเภทบอกอะไรเรา และใช้ให้เกิดความชำนาญ

โชคดีร่ำรวย กันทุกคนครับ
เริ่มต้นวิเคราะห์กราฟ Forex สไตล์ fx2trade.com

วิเคราะห์ FOREX ไทย ประจำสัปดาห์ 26 - 30 มกราคม 2558

EURUSD : Bearish
ยังมีแรงในฝั่งขาลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์
เกิดแท่ง Pinbar ขึ้น ราคาอาจจะมี เด้งขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะวิ่งลงต่ออีก 1 ชุด
Momentum ยังกดลงอย่างชัดเจน
Buy : ควรเล่นสั้น ๆ
Sell : รอจังหวัดย่อ แล้ว Sell อาจจะเข้าใน Time Frame เล็ก



--------------------------------------------------------------------------------------

GBPUSD : Bearish
ราคาวิ่งทะลุจุด Low เดิมก่อนหน้าลงมาแล้ว RSI เกิด Divergence เล็กน้อย
รอดูราคา ถ้าไม่วิ่งขึ้นมาในโซนเดิม ก็จะลงต่อ แต่แรงขายเริ่มอ่อนตัวลง
Buy : ถ้ามีแท่งทะลุเข้ามาในกรอบ หาจังหวะ Buy
Sell :  ตามแนวโน้มเดิม ควรวางแผนในการออกที่ดี 


--------------------------------------------------------------------------------------
GBPJPY : Bearish ?
ราคากำลังมาทดสอบ ที่จุด แนวรับเดิม มีโอกาสที่จะวิ่งลงต่อแนวโน้มเดิม
Buy : หากมีแท่ง Bullish/Pinbar อาจจะหาจังหวะ Buy ขึ้นมาได้
Sell : ทะลุกรอบล่าง หาจังหวะเปิด Sell แล้ววางแผนการออกให้ดี

--------------------------------------------------------------------------------------
USDJPY : Consolidate
ราคากำลังทดสอบเส้นที่ EMA 200 และจุดแนวรับ/ต้านเดิม
มีโอกาสวิ่งไปได้ทั้ง 2 ทาง






11 มกราคม, 2558

วิเคราะห์ FOREX ไทย ประจำสัปดาห์ 12 - 16 มกราคม 2558

EURUSD 4H - Bearish 
ราคายังคงวิ่งลงอย่างต่อเนื่อง RSI เริ่มเกิด Divergence
มีโอกาศที่จะขึ้นมาพักตัวบริเวณที่เป็น Gap ด้านบน
หากจะเล่นฝั่ง Buy ควรเก็บสั้น ๆ เพราะยังเป็น เทรนขาลงชัดเจน
Sell รอราคาพักตัวทางด้านบนแล้วเกิดสัญญาณกลับตัว อาจจะ Sell ลงมาได้อีก




USDJPY 4 H
ราคากำลังมาทดสอบบริเวณ แนวรับ Low เดิม
หากผ่านไปได้มีโอกาศ วิ่งลงที่แนวรับที่ 2
หาจังหวะเปิด Buy ถ้าไม่ผ่าน หรือ Sell ถ้าราคาวิ่งทะลุลงมา

 NZDUSD : Consolidate
ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบ ถ้าทะลุกรอบด้านบน
ราคาจะเป็น Bullish อย่างชัดเจน หาจังหวะเปิด Buy ได้

สำหรับ Sell รอดูสัญญาณกลับตัวแล้ว Sell ลงมา ในกรอบ



 GBPJPY : Bearish
ราคาวิ่งหลุดทำ Low ใหม่
หาจังหวะเปิด Sell ตอนที่ราคาขึ้นไปพักตัว ทดสอบบริเวณ แนวรับ/ต้านเดิม

Buy ควรเก็บสั้น ๆ