08 พฤษภาคม, 2560

ใหม่ Settrade DCA/ใน Forex ก็ทำได้นะ!

วันที่ 8 พ.ค. 2560

ตอนนี้ทาง โปรแกรมเทรดหุ้น Streaming ของไทยมี บริการเสริม
คือ " ออมหุ้นสม่ำเสมอผ่าน Settrade DCA Order "

บ้านเรา ก็มีผู้ให้บริการหลาย ๆ  เจ้าที่มาให้ความรู้กับนักลงทุนมากขึ้น
มีการใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายมากขึ้นไปอีก

กลยุทธ์หนึ่ง ที่เรียกว่า  DCA (dollar-cost averaging) 
คือการซื้อเฉลี่ยต้นทุน อาจจะเดือนละครั้ง / สัปดาห์ละครั้ง

ซื้อเท่ากัน เราก็กำหนดว่าจะซื้อกี่บาท ถึงเวลาก็ซื้อ
อาจจะเลือกหุ้นพื้นฐาน / มีปันผล / หรือตัวที่อยากจะเก็บออมไว้ ให้เงินงอกเงย ฯลฯ
( รายละเอียดสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้. ...)

ข้อดีคือ :  ไม่ต้องคาดเดาทิศทางของราคา แพงก็ซื้อได้น้อยลง..ถูกก็ซื้อได้มากขึ้น
ข้อเสีย :  เรื่องประสิทธิภาพ หรือ Perfomance อาจจะได้ไม่เต็มที่
ซึ่งก็เหมาะกับคนบางกลุ่ม..และไม่เหมาะกับบางคน

---------------------------------------------------------------------
::::: ทบทวน เรื่องการ วางเงิน/ Leverage :::::

กลับมาที่ตลาด Forex  บ้านเรา ก็เริ่มมีการนำมาใช้กันแผร่หลายมากขึ้น
อย่างเช่น Model KZM, Close System, Grid Trading

หลักการก็ไม่ซับซ้อน แต่สิ่งที่ต้องรู้คือ การใช้ Leverage/Gearing หรือการวางเงิน
ซึ่งโปรแกรม MT4 ทั่วไปก็ไม่ได้มีบอกไว้
แต่สำหรับบางโปรแกรม ก็มีให้เราเลือกว่าจะใช้ Leverage เท่าไหร่

เรื่องของ Leverage/ Pip / Lot พูดแรก ๆ อาจจะงง ๆ



ภาพบน  โปรแกรมเทรดของ eToro เลือกได้ว่าไม้นี้เราจะซื้อเท่าไหร่
ตัวคูณ Leverage เท่าไหร่


ภาพบน - โปรแกรม Meta Trader 4 บัญชีปกติ หรือ Standard คือขั้นต่ำ 0.01 lot


ภาพบน - จากโปรแกรม cTrade 2.0 การเทรดที่ บัญชีปกติ ขั้นต่ำคือ 1,000 unit/หน่วย
หรือเทียบเท่ากับ  0.01 lot ใน MT4 นั่นเอง

หลักการคือ เราไม่ต้องจ่ายเงิน เพื่อเปิด Order / เหมือนซื้อหุ้น คือต้องมีเงินก่อนถึงจะซื้อได้
เช่น เราสามารถซื้อหุ้น ราคา 100 บาท  โดยเราจ่ายเงินแค่ 50 บาท..แต่เราได้หุ้นในราคา 100 บาท
จึงเป็นที่มาของ Leverage /Gearing /Margin/  ที่ใช้กันทั่วไป

---------------------------------------------------------------------
:::::  เรื่องของการ Trade / เราเอามาใช้ทำอะไร :::::

หลักการคือ ทำให้ไม่ต้องคาดเดาทิศทางของราคา และตลาด
ไม่โดนหลอกกิน Stop Loss , สามารถจะอยู่ในรอดในตลาดได้นาน ๆ


ภาพบน - การเทรด แบบไม่คาดเดา ทิศทางราคา สามารถทำให้เราเทรดได้อย่างสบายใจ
ทำ Winrate ที่สูง ๆ ได้

---------------------------------------------------------------------

:::::  สิ่งที่ต้องรู้ ? คือการคำนวณเงิน / หน้าตักให้พอ :::::


แปลง Forex ให้เป็นหุ้น!

พอเราเห็น หุ้น GBPUSD ลงมาถูก เราอยากจะซื้อเก็บไว้
ที่ราคา 1.300 $ โดยปกติ การซื้อหุ้นใน MT4 คือ เราต้องซื้อขั้นต่ำ 1,000 หุ้นหรือ 0.01 Lot
การที่เราจะซื้อได้ต้องมีเงิน คือ ราคา 1.300 x จำนวน 1000 หุ้น = 1,300 $ 

( เอาตัวเลขกลม ๆ ..วิธีการแปลง สกุลเงิน GBP ไปซื้อเงิน USD ของ Forex
จะมีการคำนวณที่ละเอียดกว่านี้ )

** บัญชีแบบ Cents ก็สามารใช้ได้เหมือนกัน **



ภาพบน
- หลังจากที่เราได้หุ้น GBPUSD ในราคาถูก
เราก็ทยอยเก็บ สะสม มาทุก ๆ เดือน อาจจะเป็นต้นเดือน กลางเดือน หรือแต่เราสะดวก
โดยวิธีการซื้อ ใน MT4 จะต่างจากการซื้อหุ้น คือ

แบบที่ - 1 การซื้อหุ้น โดยใช้เงินเต็มจำนวน เราอาจจะต้องใช้เติมเงิน/ฝากเงิน
1300 $ ซื้อทุก ๆ เดือน เพื่อเปิด 0.01 lot หรือซื้อหุ้น GBPUSD 1000 หุ้น

แบบที่ -2 ใน MT4 เราไม่ต้องใช้เงินเยอะแบบนั้น เราจะเริมใช้ Leverage เข้ามาช่วย
ทุก ๆ เดือน เราจะใช้เงิน ( 1300 หาร 2 = 650 $)
ความหมายคือ เราใช้เงิน 650$ เพื่อซื้อหุ้น GBPUSD 1000 หุ้น หรือเปิดออเดอร์ 0.01 lot
( ใช้ Leverage x 2 เท่า )

แบบที่ -3  ถ้าเราอยากใข้ Leverage มาก ๆ ละ?
ทุก ๆ เดือน เราจะใช้เงิน ( 1300 หาร 3 หรือ...หาร 4 ....หาร 5  = 433 $.... 325 $....260 $
ความหมายคือ เราใช้เงินน้อยลง เพื่อซื้อหุ้น GBPUSD 1000 หุ้น เท่าเดิม
ใช้ Leverage x 3,4,5.... เท่า )



ภาพบน
- พอหุ้น GBPUSD  เริ่มรีบาวน์ขึ้นมา ก็ เป็นช่วงปล่อยของ ทำกำไรออกมาบ้าง
โดยต้นทุน เฉลี่ยที่ทำได้จะอยู่แถว  ๆ 1.200-1.2500 เพราะราคา Sideway อยู่นาน
ทำให้ได้ของที่ถูก

:::::   เพิ่มเติม :::::
การเลือก Leverage จะอยู่ในขั้นตอนการเปิดบัญชี/หรือสมัคร
บางโบรก อนุญาตให้เราเปลี่ยนได้ในภายหลัง

ในส่วนของการเติมเงิน/ฝากเงิน เพื่อเปิด ออเดอร์ เราก็มาคำนวณกันอีกที
ว่าจะเปิด กี่ Lot เท่าไหร่ เงินพอหรือเปล่า?



ภาพบน - การเลือกใช้ Leverage กับขนาด Lot  และจำนวนเงิน Balance/Equity
ถ้าไม่พอ โปรแกรมจะฟ้อง ว่า " Not enough money "

---------------------------------------------------------------------

:::::   ข้อระวัง :::::
การใช้ Leverage ที่มาก  ทำให้ใช้ทุนน้อย ก็จริง .. นั่นหมายถึงการที่เราซื้อหุ้น
โดยที่ไม่ได้จ่ายเงิน ครบจำนวน

ในทางกลับกัน หากราคาหุ้นลง เราก็ต้องจ่ายเงิน เพิ่ม  หรือเติมเงิน ( Margin Call )
หากเราไม่มีเงินจ่าย ทาง โบรกก็จะปิด สถานะ เราไป หรือโดนบังคับขาย ( Force Sell )

---------------------------------------------------------------------
:::::   บทสรุป :::::
DCA ก็เป็นอีกลยุทธ์ ที่ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น
นอกจากการเทรดแบบ บ้าพลังแล้ว
ก็ลองนำมาปรับใช้ ในการเทรดของเรากันดู...

Happy Trade :)